วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

เที่ยวน้ำตกห้วยหลวง


           
               มีตำนานเล่าขานกันต่อๆ มาว่า นายเตวกับพวก 2 – 3 คนได้เข้ามาตีผึ้งที่ผาน้ำตกแห่งนี้ โดยออกอุบายนำเถาวัลย์มาพันเป็นเชือกหย่อนลงไปเบื้องล่างของน้ำตก นายเตวอาสาโรยตัวลงไปเพื่อตีผึ้ง ซึ่งมีรังผึ้งเกาะติดอยู่กับหน้าผาหลายร้อยรัง โดยมิได้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ในระหว่างที่นายเตวกำลังตีผึ้งอยู่นั้นได้เกิดอาเพศขึ้น เพื่อนที่อยู่ด้านบนมองเห็นเถาวัลย์เป็นงูขนาดยักษ์เลื้อยพันขึ้นมา ด้วยความตกใจกลัวจึงใช้มีดตัดฟันลงไปตรงเถาวัลย์ขาดสะบั้นทำให้ร่างของนายเตวที่ห้อยโหนอยู่นั้นร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่างของน้ำตกเสียชีวิต ยังผลให้น้ำตกแห่งนี้ได้ชื่อเรียกในเวลาต่อมาว่า น้ำตกบักเตว


               ต่อมาได้มีการประกาศจัดตั้ง อุทยานแห่งชาติภูจองนายอยขึ้นในปี 2530 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวน้ำตก และมักจะเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจากการลงเล่นบริเวณน้ำตกแห่งนี้ จนกระทั่งมีญาติของผู้เสียชีวิตมาเล่าว่า ผู้เสียชีวิตได้มาเข้าฝันแล้วบอกว่า นายเตวไม่ต้องการให้ใครมาเรียกชื่อน้ำตกแห่งนี้ว่า น้ำตกบักเตวเนื่องจากเป็นคำไม่สุภาพและได้ให้เปลี่ยนชื่อน้ำตกแห่งนี้เสียใหม่ ในที่สุดเมื่อปี พ.ศ. 2535 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อ น้ำตกบักเตวเป็น น้ำตกห้วยหลวงตามชื่อของลำห้วยซึ่งไหลพาดผ่านน้ำตกแห่งนี้


             อุทยานแห่งชาติภูจอง - นายอยตั้งอยู่ใน อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี มีพื้นที่คลอบคลุมถึง อ.น้ำยืนและ อ.บุณฑริกบางส่วน เป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งอาจจะมีชื่อเสียงไม่ค่อยคุ้นหูของหลายๆคนสักเท่าไหร่นัก แต่ ณ อุทยานแห่งชาติภูจอง นายอยแห่งนี้นี่เองที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม(www.thongteaw.com) ของเราขอลงคะแนนเสียงให้อย่างเป็นเอกฉันท์ว่า มีน้ำตกซึ่งมีความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศไทยตั้งอยู่ (การจัดอันดับความสวยงามของน้ำตกในประเทศไทยซึ่งทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมทำนี้ อาจไม่ตรงกับความรู้สึกของผู้อ่านบางท่าน หรือ ไม่ตรงกับที่นิตยสารการท่องเที่ยว


        สำหรับใครที่ชื่นชอบการล่องแก่งแบบสบายๆไม่สมบุกสมบันมากนัก สามารถติดต่อทางอุทยานแห่งชาติภูจอง นายอยเพื่อล่องแพชมมวลหมู่ต้นสนสามพันปีและความเขียวขจีของแมกไม้ริมสายน้ำได้ในราคา 200 บาท/แพ 1 ลำ/รอบ (แพ 1ลำนั่งได้ประมาณ 5 - 6 คน ข้อมูลเมื่อเดือน มิ.ย. 2552) ณ บริเวณ แก่งสนสามพันปีระยะทางประมาณ 800 เมตรใช้เวลาไปกลับโดยเฉลี่ย 2 ชั่วโมง สายน้ำระหว่างเส้นทางล่องแก่งไหลเอื่อยใสเย็น ต้นไม้สองข้างทางร่มครึ้มเป็นบรรยากาศเบาๆชวนให้ผ่อนคลาย ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล่องแก่งจะอยู่ราวๆต้นฤดูฝน ต้นฤดูหนาว (ประมาณเดือน มิ.ย. - ต.ค.) หรือหากใครอยากดูผีเสื้อพร้อมกับลงเล่นน้ำในจุดซึ่งค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสักหน่อยก็อาจขับรถมาจอดที่ แก่งกะเลาเป็นแก่งน้ำตื้นที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาสักเท่าไหร่ เงียบ สงบ แต่หากมาถึงแก่งช่วงสายเกินไปแดดจะร้อนและอาจทำให้ผู้ซึ่งลงเล่นน้ำไม่สบายได้   
จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่อุทยานกล่าวว่า ในช่วงต้นเดือน ก.ย.จะมีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้น ณ แก่งลำดวนซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูจอง นายอย นั่นก็คือ ปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวนซึ่งจะมีกุ้งแม่น้ำออกมาเดินอวดกายอยู่บริเวณโขดหินริมแก่งลำดวนมากมายหลายพันหลายหมื่นตัว ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่ประมาณ 2 อาทิตย์เท่านั้น ใครมีโอกาสได้มาชมปรากฏการณ์นี้ก็ถือได้ว่าโชคดีมากๆ (ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมไม่มีโชคดีเท่าไหร่นักเนื่องจากมาเก็บข้อมูลในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2552 ทำให้ไม่มีรูปของปรากฏการณ์นี้มาฝากครับ) และในช่วงเดือน ต.ค. - พ.ย. ของทุกๆปีดอกไม้ซึ่งอยู่ตามพลาญหินต่างๆจะบานสะพรั่งชูช่อสวยงามอวดโฉมต้อนรับสายลมหนาวที่พัดมาแย้มเยือน ( พลาญมีความหมายตรงกันกับคำว่า ลานครับ) เป็นช่วงเวลาซึ่งอุทยานแห่งชาติภูจอง นายอยมีความงดงามมากที่สุด         
     



ที่ตั้ง : บ้านแก้งเรือง ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
การเดินทาง : ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 มุ่งหน้าจาก อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ไปยัง อ.เดชอุดม เมื่อถึง อ.เดชอุดมแล้วให้มุ่งหน้าต่อไปทาง อ.บุณฑริกโดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2182 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2248 ที่ อ.บุณฑริก มุ่งหน้าไปยัง อ.นาจะหลวย ขับรถผ่านที่ว่าการ อ.นาจะหลวยไปอีกไม่ไกลจะเห็นทางแยกซ้ายมือและป้ายอุทยานแห่งชาติภูจอง – นายอยชัดเจน เลี้ยวซ้ายที่ทางแยกแล้วขับรถตรงเข้าไปเรื่อยๆก็จะถึง (หากขับรถไปถึง อ.น้ำยืนแสดงว่าเลยอุทยานฯแล้วครับ)